เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังชนโรง

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา Mr. Harrigan’s Phone โทรศัพท์ผู้เสียชีวิตภาพยนตร์สยองขวัญที่ผลิตขึ้นมาจากเรื่องสั้นของเจ้าพ่อผู้เขียนสายสยดสยองอย่าง Stephen King ที่จะเชื้อเชิญให้ท่านขนลุกกับเรื่องราวของเด็กวัยหนุ่มซึ่งสามารถติดต่อและทำการสื่อสารกับผู้เสียชีวิตได้ผ่านทางโทรคำศัพท์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจับตาจากทาง Netflix มากมายๆด้วยความสามารถการควบคุมและก็เขียนบทโดย John Lee Hancock พร้อมทั้งกลุ่มโปรดิวเซอร์โด่งดังอย่าง Ryan Murphy, Jason Blum รวมทั้ง Carla Hacken

กล่าวถึงเรื่องราวของ Craig (สวมบทโดย Jaeden Martell) หนุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆที่มีความสนิทสนมกับ Mr. Harrigan (เล่นบทโดย Donald Sutherland) มหาเศรษฐีคนชราหวานใจสันโดษ โดยเขาได้ว่าจ้างให้ Craig นั้นไปอ่านหนังสือให้ฟังเสมอๆกระทั่งทำให้ความเกี่ยวข้องของทั้งสองก็เป็นได้ด้วยดีแล้วก็เว้นเสียแต่เรื่องหนังสือแล้ว พวกเขาทั้งสองก็ยังคุยกันผ่านทางโทรคำศัพท์ไอโฟนอีกด้วย จวบจนกระทั่งท้ายที่สุดชายแก่คนนี้ก็ได้เสียชีวิตไป Craig ก็ยังได้รับเนื้อความจาก Mr. Harrigan อยู่ผ่านไอโฟนที่เขาแอบเอาฝังเอาไว้ในหลุมฝังศพ

ตัวหนังมีความโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที เริ่มด้วยบรรยากาศที่เครียดนิดๆก่อนที่จะตัดไปสู่เรื่องราวหลัก พร้อมเล่าด้วยเสียงบรรยายของดาราหนังหลัก ไดนามิกของหนังมิได้หวือหวาหรือเชิญชวนให้ตื่นเต้น แม้กระนั้นเล่าแบบนิ่งๆเรียบง่าย เบาๆพาผู้ชมให้เสพบรรยากาศของเรื่องราวต่างๆอย่างช้าๆเบาๆไล่เรียงสถานที่ เมือง เรื่องราวต่างๆของมนุษย์ตามแบบฉบับของ Stephen King ที่จะให้กลิ่นบางสิ่งซึ่งสามารถบอกได้เลยว่านี่ล่ะเป็นเขา

อย่างที่พูดว่าตัวหนังมันเล่าแบบออกจะนิ่งอย่างยิ่งจริงๆ เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  มีตอนให้ลุ้นให้ตื่นเต้นบ้างแต่ว่าก็มิได้บิ้วอารมณ์ไปจนถึงสุดถึงขนาดกลัวหรือขนลุกอะไรแบบงั้น ซึ่งก็เชื้อเชิญให้ต้องการมองได้เรื่อยสำหรับแนวทางการเล่าก็มิได้มีอะไรใหม่มากแค่ไหนนัก แม้กระนั้นที่น่าดึงดูดเป็นเนื่องจากว่าเรื่องราวเป็นการเล่าแบบย้อนยุค แต่ว่ากลับมีรายละเอียดที่ร่วมยุคมากมาย กล่าวถึงเรื่องของสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค

ข่าวต่างๆในโลกเดี๋ยวนี้หรือวิถีชีวิตที่เราทุกคนต่างกำลังพบเจออยู่หรือบางครั้งอาจจะบอกก็ได้ว่าพวกเรากำลังเสพติดมันอยู่ซึ่งในพาร์ทที่ทำเป็นดีเป็นการลำดับเรื่องราวในความเชื่อมโยงระหว่างนักแสดงที่น่าดึงดูดแล้วก็ลึกซึ้งดี โดยรวมเป็นหนังมันมิได้ไปสุดในทางของสยองขวัญ ดราม่าหรือเรื่องราวการเจริญเติบโตต้นแบบวัยรุ่นเลย แต่ว่ามันอยู่ตรงตรงกลางระหว่างเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวง ถึงแม้บางทีอาจจะผิดจิตใจบ้างแม้กระนั้นก็จำต้องสารภาพว่าสามารถเล่าและก็พรีเซนเทชั่นอกมาได้อย่างพอดีมากมายอย่างยิ่งจริงๆ มันเป็นหนังแบบกลางที่ไม่หวือหวารวมทั้งสามารถเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมสามารถคิดตามรวมทั้งจินตนาการไปกับเรื่องราวรายละเอียดที่ตัวหนังมันอุตสาหะส่งมาได้

หนังดราม่าครึ่งหนึ่งจิตวิทยาเรื่องราวของ เคร็ก เด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งได้มาสร้างมิตรกับ คุณฮาร์ริแกน มหาเศรษฐีสูงอายุผู้รักสันโดษ ทั้งสองเริ่มรู้สึกผูกพันกันโดยไม่คาดคิดเพราะว่าต่างก็รักหนังสือและก็การอ่านแบบเดียวกัน แม้กระนั้นเมื่อคุณฮาร์ริแกนเสียชีวิตลง เคร็กก็ได้ศึกษาและทำการค้นพบว่าบางสิ่งกลับมิได้เลือนหายหรือตายตามไปด้วย เขาจำเป็นต้องประหลาดใจที่ยังติดต่อกับเพื่อนพ้องต่างอายุคนนี้ได้ผ่านโทรศัพท์ไอโฟนที่ฝังไปพร้อมศพของเขา เรื่องราวแนวก้าวพ้นวัยเหนือธรรมชาตินี้จะเปิดเผยให้มีความเห็นว่าความสัมพันธ์บางสิ่งบางอย่างยังโยงใยถึงกันอยู่เป็นประจำ

หนังที่พล็อตกับปกดูเหมือนกับว่าแนวสยองขวัญสุดกำลังแน่นอนแม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่านี่เป็นหนังดราม่าครึ่งๆComing of age ของตัวนำสองวัยมากยิ่งกว่า และจากนั้นก็ไม่มีผีปรากฏในเรื่องให้มองเห็นหรือฉากสยดสยองอะไรก็แทบจะไม่มีทั้งหมดหนังเดินเรื่องยาวครึ่งแรกด้วยการถักสมาคมของทั้งสองที่ชายแก่ว่าจ้างเคเกลื่อนกลาดมาอ่านหนังสือให้ฟัง ซึ่งเคเกลื่อนกลาดก็เป็นเด็กวัยหนุ่มที่มีเพียงแค่พ่อเลี้ยงมอง

แม่เสียไปแล้ว สถานที่เรียนก็มีพวกหัวหน้าค่อยแกล้ง หากแม้เขาจะไม่ใช่พวกแหยๆเพียงแค่เป็นแฟนสงบไม่ต้องการที่จะอยากมีเรื่องมีราวกับคนใดกัน การที่มาอ่านหนังสือให้ฮาริแกนฟังก็ราวกับที่ลี้ภัยพักของเขาโดยฮาริแกนก็เสมือนเป็นผู้ที่รอสอนมุมมองใหม่ๆให้แก่เขาผ่านเรื่องราวในหนังสือ ถึงแม้เป็นมหาเศรษฐีเล่นหุ้น แต่ว่าตัวฮาริแกนเองกลับกลายคนโลวเทคไม่ยินยอมใช้สมาร์ทโฟน

จนถึงเวลาผ่านพ้นผ่านไปเคเกลื่อนกลาดก็นำไอโฟนมาให้ฮาริแกนใช้เป็นของขวัญ ซึ่งตัวเรื่องก็เพียรพยายามให้เป็นแถวดราม่าอบอุ่นที่ทั้งสองต่างมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันด้วยมิตรภาพตามวาระต่างๆซึ่งการปูเรื่องยาวอย่างงี้ในหนังผีจัดว่าแปลก รวมทั้งถ้าเกิดนี่ไม่ใช่งานจากสตีเฟนคิงก็อาจมิได้มุ่งหวังว่าจะมีดีอะไร แม้กระนั้นเพียงพอเป็นสตีเฟนคิงก็อดทำให้คิดมิได้ว่าตัวเรื่องที่ปูมาช้านานอย่างงั้นคงจะมีอะไรที่เซอร์ไพรซ์ผู้ชมได้ในช่วงหลัง

แปลงเป็นว่าตัวเรื่องช่วงหลังดันสร้างความไม่สมหวังไปเต็มๆเมื่อเรื่องราวถัดจากนั้นที่ฮาริแกนตายและก็ได้โทรศัพท์ประจำตัวลงไปในหลุม ตัวเรื่องกลับไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าพล็อตที่วางไว้ แปลงเป็นเพียงแค่การติดต่อกลับมาผ่าน SMS สั้นๆรวมทั้งยังมาในแนวการ์ตูนผี 5 บาทของไทย ด้วยเรื่องว่าฮาริแกนมาช่วยจัดแจงผู้ที่เคเกลื่อนกลาดมีปัญหาหรือชิงชัง ซึ่งมองออกสมุทรไปๆมาๆก

แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีการหักมุมอะไรก็แล้วแต่ทั้งปวง เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มีโฆษณา  ไม่มีผีหรือฉากสยดสยองอะไรให้มองเห็น ตัวเรื่องทำเสมือนไอโฟนที่เคเกลื่อนกลาดใช้เป็นเช่นเดธโน๊ตที่โทรไปบอกฮาริแกนว่าจัดแจงคนนี้หน ผีก็ประพฤติตามให้ กล้วยๆแบบงี้เลย แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีผลสรุปอะไรที่เชิญให้หักมุมหรือเป็นเหตุสำเร็จกับความประพฤติของทั้งยังเคเกลื่อนกลาดกับผีฮาริแกนใดๆก็ตามทั้งหมด จนถึงเป็นราวกับเรื่องสั้นที่สั้นจริงๆแต่เอามายืดทำเป็นหนังยาวแบบไม่มีความสำคัญ

Jaeden Martell จาก ITตัวเรื่องได้เรื่องแสดงของ Jaeden Martell จาก IT ช่วยปรับเรื่องราวมองมีอะไรน่าดึงดูด ขั้นต่ำๆพาร์ทของเขาตอนสานชมรมก็มีเรื่องมีราวเชิญให้นึกถึงการต่อว่าดสมาร์ทโฟนในยุคนี้ที่แม้กระทั้งชายแก่อย่างฮาริแกนก็ยังติดมันจนได้ แม้กระนั้นตัวเรื่องก็มิได้นำพาจุดนี้ไปทำอะไรมากยิ่งกว่าจะโยงว่าเขาตายไปรวมทั้งยังติดมือถือไม่แปลงเท่านั้น

นับว่าเป็นหนังผีที่ดูเหมือนจะมีดี แต่กลวงโบ๋ว่างเปล่ามากมาย ผ่านได้ก็ผ่าน หรือจะทดลองดูก็ได้ในฐานะหนังดราม่า อย่ามีความรู้สึกว่าเป็นหนังผี หรืองานจากสตีเฟนคิงควรมีดีอะไรอย่างงั้นได้ผิดหวังแน่ๆนี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับที่มักจะเจริญรุ่งเรืองกับงานแนวดราม่าบ่อยๆอย่าง “จอห์น ลี แฮนค็อก” ที่ดูเหมือนกับว่าคราวนี้น่าจะเป็นหนแรกที่เขาหันมาถือจับหนังดราม่าสยองขวัญดูบ้าง รวมทั้งเขาก็ได้ถือเอาการสั้นของเจ้าพ่อนิยายสยดสยอง สตีเฟ่น คิง มาละเลงรวมทั้งเขียนบทหนังประเด็นนี้ขึ้นมา โดยเป็นการถือโยงความสยดสยองกับเทคโนโลยีสมัยแรกๆได้อย่างน่าดึงดูด

เพียงโชคร้ายไปสักนิด เนื่องจาก Mr. Harrigan’s Phone แปลงเป็นหนังสยองขวัญที่เดินเรื่องราวไปแบบไม่มีเสน่ห์ที่จะต้องมี จังหวะดนตรีของหนังเรียบเรียงไปแบบออกจะเนิบช้า มีลักษณะการประสมประสานของหนังแนว coming-of-age ที่สะท้อนกับสภาพสังคมของวัยรุ่นเจนวายที่เติบโตมาทันในตอนไอโฟนรุ่นแรกๆวางจำหน่ายบทหนังและก็การเล่าเรื่องของ Mr. Harrigan’s Phone

ยังไม่ค่อยสัมผัสเข้าถึงหัวใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ ด้วยความช้าสำหรับการเล่าไปสักนิดสักหน่อย หนังใช้เวลาผ่านไปเกือบจะครึ่งเรื่องกว่าจะเบาๆไปสู่เรื่องราว แม้กระนั้นเมื่อไปสู่เค้าเรื่องและก็เส้นเรื่องหลักแล้ว หนังก็ยังไม่สามารถที่จะขับเสน่ห์ออกมาเจริญสักเท่าไหร่อยู่ดี เนื่องจากราวกับหนังยังงงงันว่าจะไปในแนวทางรวมทั้งโทนที่จะเป็นหนังสยดสยองหรือหนังวัยรุ่น แม้ว่าจะยังคงบรรยากาศความหลอนไว้อยู่เสมอเวลา แต่ว่ายังไม่มีซึ่งความน่าสยอง

แน่ๆว่า “เจเดน มาร์เทลล์” ยังคงเป็นผู้แสดงชายหนุ่มเจนใหม่ของแวดวงที่มีฝีมือการแสดงที่จัดจ้าไม่น้อย รวมทั้งเขาก็คือดาราหนังที่เล่นแนวดราม่าได้เหมาะกับมือทีเดียว หนังประเด็นนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกแนวทางที่ให้เขาได้ส่องแสง แต่ว่าก็รู้สึกโชคร้ายอีกที เพราะหน้าที่ของเขาที่ได้รับในหนังหัวข้อนี้ก็เกือบจะไม่แตกต่างไปจากหนังวัยไฮสคูลเรื่องก่อนๆที่เขาเคยถ่ายทอดเอาไว้สักเท่าไหร่

เปลี่ยนไปเป็นว่า เจเดน มาร์เทลล์ ยังออกจะติดภาพค้างแรกเตอร์นักเรียนแบบเดิมๆที่ภาพจำกลุ่มนี้แปลงเป็นสิ่งที่เขากำลังมานะจะสลัดคราบเปื้อนให้ออก แม้กระนั้นดูราวกับว่าจะติดแน่นหนากับตัวเขาไม่น้อย แม้ว่าจะบากบั่นไต่ระดับการเจริญเติบโตในติดอยู่แรกเตอร์แค่ไหนและก็ตาม ก็พบว่าภาพของเขาก็ยังคงเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นคนนั้นอยู่

 

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา

 

หนังยังมีดาราอาวุโสรุ่นใหญ่ “โดนัลด์ ซูทเทอร์แลนด์” มาร่วมสมทบด้วย แน่ๆว่าเขาเป็นมือโปรที่ให้การแสดงในลักษณะน้อยแม้กระนั้นมากมาย การปรากฏตัวของเขาหนังก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งส่วนประกอบที่เพิ่มความทรงอำนาจให้อยู่ไม่น้อย ถึงกระนั้นหน้าที่ของเขาก็แทบมิได้เด่นอะไรเท่าไร มาเพียงแต่เสริมและก็เป็นสารเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงก็เท่านั้นเอง

ด้านงานภาพก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยมที่สุด คุมโทนสีออกมาเก่งมากมาย สามารถคุมบรรยากาศให้ออกมาได้เชื้อเชิญหลอนๆแบบนิ่งอึ้งดี การหาโลเคชันก็เพอร์เฟ็ค ส่วนประกอบทุกสิ่งทำออกมาก้าวหน้ามากมาย ถูกใจที่ใส่ดีเทลของหนังสือที่อ่านทุกเล่มรวมทั้งที่สำคัญเป็นเสียงประกอบหัวข้อนี้ยอดเยี่ยมาก ตัวเสียงประกอบที่ใช้มาเปิดเป็นเสียงหลักมันมีความเร้นลับ

เชื้อเชิญให้ขนลุกนิดๆบันเทิงใจหน่อยๆแม้กระนั้นก็น่าคลั่งไคล้รวมทั้งน่าค้นหามากมาย ซึ่งเป็นกลิ่นแบบ Stephen King เลย มันบิ้วอารมณ์ของผู้ชมได้ดิบได้ดีและก็อีกอย่างที่น่าชมเป็นเสียงบรรยายของน้อง Jaeden Martell ที่กับโทนของเรื่องมาก ส่วนเพลงที่เลือกใช้มาประกอบเพลงอื่นๆก็เหมาะสมกับเรื่องราวดี

สำหรับในการแสดงของผู้แสดงหลัก น่ากล่าวชมทั้งสอง เคมีความถูกกันดีเลิศ สีหน้าท่าทาง อิริยาบถ แววตาแล้วก็น้ำเสียงส่งอารมณ์ได้หมด อย่าง Jaeden Martell เป็นแสดงดีมาตลอดอยู่แล้วจากที่มองเห็นในผลงานก่อนหน้าที่ผ่านมา น้องยังคงมีกลิ่นบางสิ่งที่กับหนังสยองขวัญต้นแบบวัยรุ่นมากมาย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งของ Stephen King) รวมทั้งแน่ๆว่าน้องก็กับหัวข้อนี้ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเหมือนกัน

บางทีก็อาจจะเรียกได้ว่า Mr. Harrigan’s Phone ไม่ใช่หนังผีหวือหวาสิ้นเปลืองซีนแบบที่พวกเราเคยชินกับงานด้านการเขียนของ สตีเฟน คิง แม้กระนั้นหัวข้อนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ผสมปนเปกับเงื่อนดราม่าแล้วก็ทับซ้อนกับวิธีการเชิงจิตวิทยาเบาๆมีลูกเล่นผสมใส่กับความลับแล้วก็ความเปล่าเปลี่ยวของความเป็นคน ลึกเข้าไปในแก่นความนึกคิดแล้วก็จิตไร้สำนึกของคน ที่บางครั้งอาจจะลึกเหลือเกินหน่อย เหลือเกินกว่าที่ผู้ชมจะซึบซึมซับและก็รู้เรื่องได้ชัดเจน

Mr. Harrigan’s Phone โทรศัพท์ผู้เสียชีวิตMr. Harrigan’s Phone เป็นหนังดราม่าสะท้อนจิตใจเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งมากยิ่งกว่าที่จะเป็นหนังสยองขวัญ เอาจริงเอาจังๆหนังก็มีเชิงชั้นในเรื่องราวอยู่ไม่น้อย เพียงแค่ออกจะเป็นปัญหาที่ยากอยู่สักนิด แม้ต้องการจะติดต่อสื่อสารออกมาเป็นภาพและก็เสียงให้ผู้ชมได้รู้เรื่องและก็สัมผัสได้อย่างครบถ้วน สไตล์การเล่าเรื่องที่มองไม่มีข้อดีแล้วก็แก่นที่แจ่มกระจ่าง

กลับบ่อนทำลายหนังไปอย่างโชคร้าย ด้วยเหตุว่าท้ายที่สุดแล้วชั่วโมงเศษๆที่นั่งมองมานั้น เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  กลับไม่มีอะไรให้น่าจำได้เลยเป็นหนังที่ไม่เหมาะสมกับสายสยองขวัญที่อยากได้ความหลอนแบบจัดเต็ม แต่ว่ามันเป็นหนังสยองขวัญแบบที่เล่ากล้วยๆไม่สลับซับซ้อน มากับอารมณ์ที่จะเชิญชวนให้ท่านรู้สึกขนลุกแล้วก็ดราม่าไปกับเรื่องราวอันน่าฉงนของเด็กวัยหนุ่มซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนตายได้

 

Rampage ใหญ่ชนยักษ์

คิดว่าตอนหน้าร้อนนี้มีแม้กระนั้นหนังตัวประหลาดยักษ์ออกมาให้มองติดๆกันเลยจ๊า เดือนที่ผ่านมาเพิ่งจะมองหุ่นยักษ์ตีกะไคจูไปใน Pacific Rim : Uprising เพียงพอเข้าเดือนนี้ก็ได้มอง กอริลล่ายักษ์ ตีกับ สุนัขป่ายักษ์ ตะไข้ยักษ์อีกแล้ว ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Rampage โผล่มาในฐานะหนังผลิตขึ้นจากเกมเรื่องปัจจุบัน ภายหลังกระแสหนังสร้างขึ้นมาจากเกมซบเซาไปพักใหญ่ แล้วได้ Warcraft กลับมาสร้างความมุ่งหวังให้อีกที รวมทั้งได้มองเห็น Tomb Raider (2018) ที่กลับมาไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนอย่างที่คิด

ก็คงจะทำให้ Rampage ไปได้พอเหมาะ แต่ว่าด้วยหน้าหนังที่ขายความถล่มทลายกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง และก็มีชื่อดเวย์น จอห์นสัน เป็นจุดขายหลัก ช่องทางปัดกวาดผลกำไรจากเงินผู้ชมนอนมามองเห็นๆเนอะมั่นใจว่าผู้ชมส่วนมากคงจะไม่ทราบมาก่อนว่า ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Rampage ก็เป็นหนังอีกประเด็นที่มีที่มาจากเกม เนื่องจาก Rampage เป็นเกมสมัยเก่าตั้งแต่ปี 1986 เป็นเกมตู้ที่จำต้องหยอดตังค์เล่นกันตามร้านค้าเกม ผู้แสดงหลักในเกมก็มี จอร์จลิงยักษ์ , ราล์ฟสุนัขป่ายักษ์ รวมทั้งลิซซี่ตะกวดยักษ์ อย่างที่พวกเรามองเห็นกันในหนัง

พวกเราเลือกเล่นเป็นตัวไหนก็ได้ หน้าที่พวกเราเป็นทำลายอาคารบ้านเรือนให้ได้มากที่สุดเพื่อปัดกวาดคะแนน แต่ว่าทหารก็จะมายิงพวกเราทำให้ค่าพลังชีวิตพวกเราลดน้อยลง แม้กระนั้นหากพวกเรากินมนุษย์ค่าพลังชีวิตพวกเราจะกลับมา ในเกมจอร์จ , ราล์ฟ แล้วก็ ลิซซี่ จะร่วมมือกันทำลายประเทศ แต่ว่าถ้าเกิดในหนังออกมาอย่างนั้นน่าจะไม่สนุกนะ

ดีแล้วล่ะที่ผู้เขียนบทเลือกให้จอร์จ เป็นศัตรูกับราล์ฟ  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา และก็ลิซซี่ พวกเราก็เลยได้มองฉากสัตว์ยักษ์รบกันดูแล้วสรรเสริญ ไรอัน เอนเจิล ผู้ครอบครองเรื่องและก็เขียนบทภาพยนตร์ซึ่งสามารถประดิษฐ์เรื่องราวของ Rampage ให้ออกมาเป็นบ้าเป็นหลังได้ ทั้งๆที่เกมต้นฉบับเกือบจะไม่มีรายละเอียดอะไรเลย หนังแบ่งเป็นสองพาร์ท บันเทิงใจทั้งยัง 2 พาร์ท หากแม้อารมณ์จะแตกต่างกันมากมาย

ครึ่งแรกสำหรับการแนะนำตัวละครแล้วก็ที่มาของความปั่นป่วนที่สร้างบรรยากาศออกมาเป็นหนังสยองขวัญได้เชิญชวนลุ้นมากมาย ทั้งยังฉากบนสถานีอวกาศ รวมทั้งฉากทหารไล่ล่าราล์ฟ สุนัขป่ายักษ์ ในป่าที่ทำเอาตกใจอยู่ได้หลายทีแบบเดียวกัน แล้วก็ช่วยเสริมความน่าขนลุกให้กับราล์ฟได้มาก ในเวลาที่ลิซซี่กลับผิดเอ๋ยถึงและก็เก็บไว้เป็นทีเด็ด มาเผยโฉมให้เซอร์ไพรส์กันด้านหลังเรื่อง พอเพียงเข้าช่วงหลังหนังก็ไปสู่โหมดหนังแอ็คชั่น จัดหนักจัดเต็มแบบที่มองเห็นกันในแบบอย่างหนัง

 

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา

 

และก็ที่สำคัญหนังรักษาธีมหลักของเกมไว้ได้กับการได้มองเห็น 3 สัตว์ยักษ์ทำลายอาคารบ้านเรือนราวกับในเกม งานซีจีทำเป็นเยี่ยมสุดๆแม้ว่าจะเคยผ่านตากันมาแล้วกับหนังซึนามิหลายต่อหลายเรื่อง ก็ยังมองน่าละลานตาอยู่ดี แถมเจ้าราล์ฟ กับ ลิซซี่ ก็ยังมีความรู้ความสามารถพิเศษหนเก็บแอบซ่อนไว้มาเป็นเซอร์ไพรส์อีกหลายชนิดเป็นฉากแอ็คชั่นที่ลากยาวกันจุใจเกือบจะชั่วโมง ได้มองเห็นทั้งยังสัตว์ทำลายประเทศ มองสัตว์ยักษ์ทำลายเฮลิคอปเตอร์ เรือบินรบ รถถัง ก็มองหนำใจดี

แล้วหลังจากนั้นก็ลงท้ายได้มองสัตว์ยักษ์ทั้งยังสามตีคุ้นเคย เป็นฉากแอ็คชั่นลากยาวที่เพลิดเพลินสุดๆเด่นที่สุดจำเป็นต้องชูให้งานซีจีที่ประดิษฐ์จอร์จเจ้ากอริลล่ายักษ์ที่ทำออกมาได้มองกระปรี้กระเปร่ามากมาย มั่นใจว่าทุกคนที่ได้ดูเหมือนจะจำต้องตกหลุมรักเจ้าจอร์จกันหมด เป็นกอริลล่าที่มีอารมณ์ขันสนุก แถมเพียงพอเข้าโหมดบู๊ก็ยังเก่งถึกทนเสียอีก

เพียงพอรักจอร์จแล้วตอนมองเห็นจอร์จสู้ก็ทั้งยังลุ้นทั้งที่ยังไม่ตายห่วงจอร์จไปด้วย แต่ว่าราวกับงานซีจีจะทุ่มเทไปกับจอร์จเป็นหลัก ตัวราล์ฟ กับ ลิซซี่ ในบางฉากก็เลยยังมองมีความเป็นการ์ตูนอยู่บ้าง รวมทั้งเมื่อหนังออกมาแนวนี้ก็ดูเหมือนเข้าทางทั้งยังผู้กำกับกางรด เพย์ตัน แล้วก็ ดเวย์น จอห์นสัน เนื่องจากว่าทั้งสองก็เคยร่วมงานกันมาแล้วใน ดูหนังผ่านเน็ต San Andreas หนังแผ่นดินไหวประเทศถล่มทลายกันมาแล้วจุดเสียของหนังก็ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานของหนังฮอลลีวู้ด

เป็นบทที่เขียนนำเพื่อเปิดทางให้ได้ใส่ฉากแอ็คชั่นสนุกๆเป็นหลัก ก็เลยมีช่องโหว่ที่ตรงนั้นที่ตรงนี้ที่มองไร้เหตุผลเยอะไปหมด แม้กระนั้นถ้าหากชั่งน้ำหนักแล้วกับการที่ได้เรื่องสนุกกลับมาก็นับว่าพอให้ยกโทษได้ เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  หนังหวังผลทางการตลาดอย่างนี้จำต้องมองแบบปลดปล่อยๆไปอย่าคิดตาม , ดเวย์น จอห์นสัน ไม่มีอะไรให้เอ่ยถึงมากมาย มาในมาดเดิมๆเล่นแบบสบายๆเลย

ยิ่งหากเกาะติดจอร์จ ก็โดนจอร์จลักขโมยซีนไปตลอดล่ะ , มาลิน เอเคอร์แมน รวมทั้ง เจค เลซี่ ในบทญาติพี่น้องไวเด็น ตัวร้ายของเรื่องที่ร้ายมาตั้งแต่เปิดตัว ร้ายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย ส่วนตัวละครรายที่มองมีมิติสุดก็เห็นจะเป็น ข้าราชการรัสเซล บทของเจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน ที่เปิดตัวมาด้วยมาดเดียวกับ นีแกน ที่พวกเราคุ้นหน้ากันเลย เป็นมองร้ายแบบเป็นพิษสงแอบซ่อนอยู่ข้างหลังบริเวณใบหน้าที่บอกไปยิ้มไปตลอดระยะเวลา แล้วรัสเซล ก็มีมุมที่สวยในช่วงท้ายๆรวมทั้งถ้าหากหนังมีภาคต่อ บทของเขาก็คงจะได้ไปต่อด้วย

 

Halloween Ends จบสิ้นฮาโลวีน

เป็นตอนที่มีหหนังสยดสยอง หรือหนังสแลชเชอร์ เข้าฉาย แม้กระนั้นหนังเรื่อง Halloween หนังที่ถูกทำมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษจะถูกกล่าวขาลเวลานี้มากมายเป็นพิเศษ และก็ปีนี้ก็จะเป็นการจบภาพยนตร์ตำนานนักเฉือนที่ฮัดดอนฟิลด์ ไมเคิล ไมเยอร์ กับภาพยนตร์เรื่อง halloween Ends อย่างเป็นการสักครั้งภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์สยองขวัญไล่เฉือนฮาโลวีน

ที่เดินทางมาตั้งแต่ Halloween (1978), Halloween (2018), Halloween Kills (2021) รวมทั้งประเด็นนี้ ซึ่งข้างหลังได้ดูแล้วก็คงจะบอกได้ว่ามันก็เป็นภาคจบจริงๆภาพรวมของหนังก็มิได้รู้สึกถูกใจมากมาย บางทีอาจจะถูกใจกว่าภาค Kills นิดๆดูหนังผ่านเน็ต ที่มันต่อยอดหลักสำคัญและก็เรื่องราวบางสิ่งบางอย่างได้น่าดึงดูดตามหลังภาค ‘Halloween Kills’ เพียงแต่ 11 เดือน ท้ายที่สุด

Halloween Ends’ ข้อสรุปตำนานคนร้ายดังที่สมัย 70s – 80s ที่โลดแล่นสะสมยอดการเชือดมาตลอด 40 ปีที่หลายๆคนคอยกลับมาสืบต่อเรื่องราวที่ทิ้งเงื่อนไว้ภาคก่อน ซึ่งจะต้องเห็นด้วยว่าประสิทธิภาพของหนังภาคที่แล้วไม่เป็นที่ถูกใจนัก ด้วยเหตุนั้นการมาของภาคจบผลสรุปอย่าง ‘Halloween Ends’ ก็เลยเสมือนเป็นการกลับมาเรียกเลื่อมใสแล้วก็พนันครั้งใหญ่ว่าการปลุกผี ไมเคิล ไมเยอร์ส คราวนี้ของ เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) จะทำเป็นสมศักดิ์ศรีตำนานหนังเฉือนที่สะสมมาร่วม 40 ปีหรือเปล่า

ถ้าเกิดมองดูในฐานะของความเป็นหนังสยองขวัญไล่เฉือน ภาคนี้จัดว่าน่าผิดหวังอย่างยิ่งจริงๆที่มิได้มอบความสนุกสนานร่าเริงอันน่าสาแก่ใจได้มากเลยมากแค่ไหน ซึ่งหนังออกจะเสียเวล่ำเวลาไปกับการปูเรื่องราวผู้แสดง การนำพาผู้แสดงไปสู่สิ่งนั้นดังที่หนังวางไว้ด้านหลังเรื่อง เลยทำให้กลางทางมันขาดความสนุกสนาน ความระทึก ความโหดร้ายๆสาแก่ใจแบบถึงชุดแต่งกายสไตล์หนังไล่เฉือน มันก็จะมีความไม่ลงตัวสำหรับเพื่อการผสมความสนุกสนานจากซีนเฉือนและก็สิ่งที่เล่า เลยทำให้หนังมันมองเบื่อพอเหมาะพอควร

ภาคนี้เป็นการส่งผ่านจากภาคก่อน ที่เอามาสู่ภาคนี้ โดยการเอ๋ยถึงเนื้อร้ายที่มันฝังลึกอยู่จิตใจผู้คน ทั้งยังความอคติ ความไม่ชอบ ความทุกข์ใจ ความสิ้นหวังที่ซึมกัดรับประทานสังคม เมือง และผู้คนเอง โดยสิ่งกลุ่มนี้ที่เกิดขึ้นมาจากผู้คนคุ้นเคย มันสร้างสิ่งที่อันตรายมากกว่าสิ่งที่อสุรกายได้ทิ้งเอาไว้เสียอีก (อย่างไมเคิล เมเยอร์ส) ก็เลยทำให้ภาคนี้มีหัวข้อสังคมที่มองน่าสะเทือนใจรวมทั้งสะท้อนภาพสังคมได้อย่างยิ่ง

แต่ว่าอะไรก็แล้วแต่ความน่าตะหงิดจิตใจและก็กากระทำของนักแสดงก็ยังคงให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ขัดหูขัดตาผู้ชมพอเหมาะพอควร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนังหมดเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยยิ่งไปกว่านั้นช่วงท้ายที่สมรรถนะความตื่นเต้นมันคงจะดี แม้กระนั้นก็ถูกกลบไปด้วยข้อกลบของพฤติกรรมที่สุดแสนที่ลงล็อคและก็จบได้อย่างไม่ยากเย็น หากแม้ข้อสรุปมันจะก่อให้พวกเราหายอ่อนล้าได้สักครั้งที่ว่ามันเป็นภาคสุดท้ายแล้วจริงๆแม้กระนั้นก็กลับกลายภาคสุดท้ายที่จบท้ายได้น่าผิดหวังอยู่ด้วยเหมือนกัน

หนังสยองขวัญไล่เฉือนที่ปิดภาคสุดท้ายHalloween Ends” ก็เป็นหนังสยองขวัญไล่เฉือนที่ปิดภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ฮาโลวีนที่ดำเนินมาอย่างช้านาน แม้ว่าจะสืบต่อเรื่องราวแล้วก็ใจความสำคัญจากภาคก่อนเจริญและก็น่าดึงดูด  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา แม้กระนั้นภาพรวมในทางของความสนุกสนานร่าเริงแล้วก็การเป็นหนังข้อสรุปจบยังคงน่าผิดหวังหนังยังเล่าถึงเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าคอร์รี คันนิงหมูแฮม หนุ่มน้อยผู้ที่ได้รับเคราะห์จากกลางคืนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วรวมทั้งถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนร้ายฆ่าเด็ก

เมื่อเวลาผ่านไปครบ 1 ปี สถานะการณ์ความหยาบช้าร้ายจากความสามารถของไมเคิล ไมเยอร์ยังไม่จบ รวมทั้งมันได้กลับมาหลอก ชาวกรุงฮันดอนฟิวด์อีกรอบ แล้วก็คราวนี้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างควรต้องจบลงHalloween ที่ เดวิด กอดอน กรีน นำมันมาสร้างต่อในปี 2018 ซึ่งเล่าต่อจากหนังในปี 1978 เขาทำออกมาก้าวหน้ามากมายๆเรียกว่าเป็นการฟื้นคืนชีพหนังไล่เฉือนเครือญาติฮาโลวีนขึ้นมาได้อย่างสง่างามภายหลังที่สกปรกออกไปไกลในระยะเวลาหลายสิบปีแต่ว่าเปลี่ยนเป็นว่าเพียงพอมาทำภาคต่อในภาค

Halloween Kills หนังแทบไม่มีอะไรเลยเว้นแต่ฉากการฆ่าโหดเหี้ยมรวมทั้งการฆ่ากลุ่ม ความอลหม่านวุ่นวาย ซึ่งเวลานี้ตัวของไมเคิล ไมเยอร์ แทบเปลี่ยนเป็นภูติผีที่ไม่มีทางฆ่าตายไปแล้วพอเพียงมาถึงภาคปี 2022 นี้ก็เลยมิได้ตั้งความหวังอะไรกับตัวหนังมากเท่าไรนัก แล้วก็พอสมควรจบแล้วบอกเลยว่าภาคนี้ไม่ผิดหวัง

เหตุใน ‘Halloween Ends’ จะเริ่มจากเหตุสะเทือนใจครั้งใหม่ในปี 2019 เมื่อคอรี คันนิงหมูแฮม (สวมบทบาทโดย โรฮาน แคมป์เบลล์ Rohan Campbell ) เด็กวัยรุ่นอนาคตไกลจะต้องมาความเป็นมาไม่บริสุทธิ์ภายหลังเผลอทำเด็กในดูแลของตัวเองตายในคืนวันฮาโลวีน แล้วต่อจากนั้นหนังจะตัดไปที่เรื่องราวตอนนี้ที่พาให้คอรีได้มาพบกับ ลอรี สโตรด

(สวมบทบาทโดย เจมี ลี เคอร์ว่ากล่าวส Jamie Lee Curtis) และก็อัลลิสัน (สวมบทบาทโดย แอนดี เมติแช็ค Andi Matichak) ตอนที่อีกทั้งแฮดดอนฟีลด์ต่างดูเขาไม่มีความต่างจากภูติผี โดยไม่เคยทราบเลยว่าในคืนวันฮาโลวีนที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง ไมเคิล ไมเยอร์ส กำลังจะกลับมาสร้างตำนานเลือดสาดสะเทือนใจแฮดดอนฟีลด์อีกรอบ

สิ่งหนึ่งที่กรีนแล้วก็กลุ่มเขียนบทดูเหมือนจะจับทางได้จากความเละเทะของบทหนังในภาค ‘Halloween kills’ ก็คือการกลับไปพบรากที่นำไปสู่คนร้ายนามว่า ไมเคิล ไมเยอร์ส อีกทีโดยเกือบจะไม่กล่าวถึงความปั่นป่วนอันแสนชุลมุนวุ่นวายในหนังภาคก่อนอีก และก็การเสนอแนะนักแสดงใหม่อย่าง คอรี คันนิงหมูแฮม ก็แปลงเป็นปัญหาชั้นเยี่ยมว่าในที่สุดแล้วแฮดดอนฟีลด์จะสามารถหลุดพ้นจากฝันร้ายวันฮาโลวีนได้ใช่หรือไม่ รวมทั้งการตั้งข้อซักถามถึงปีศาจร้ายด้านในจิตใจที่หนังภาคก่อนมานะเล่าแต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จได้เป็นชิ้นเป็นอันกว่ากันมากมาย

ลอรี สโตรด กลับมามีความหมายกับเรื่องราวอีกทีจุดหนึ่งที่ถูกใจมากมายในหนัง ‘Halloween Ends’ เป็นการนำ ลอรี สโตรด กลับมามีความจำเป็นกับเรื่องราวอีกรอบ ทั้งยังในฐานะผู้นำครอบครัวที่บากบั่นปกป้องรักษาหลานสาวผู้เดียวของคุณรวมทั้งในฐานะผู้ที่เพียรพยายามทำให้แฮดดอนฟีลด์ก้าวผ่านฝันร้ายนาม ไมเคิล ไมเยอร์ส ให้ได้ผ่านการโอบอุ้ม คอรี คันนิงหมูแฮม หนุ่มน้อยมีประวัติที่คุณหวังว่าจะก่อให้เขาได้กลับมาดำรงชีวิตในสังคมถัดไปได้ แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันฝันร้ายของลอรีรวมทั้งครอบครัวก็กลับมาในลักษณะของการเช็ดกด่าว่าว่าเป็นสาเหตุให้หลายครอบครัวจำต้องสูญเสียผู้ที่รักไปจากการรบไล่เฉือนในคืนวันฮาโลวีนก่อนหน้านี้

ซึ่งนี่แหละเป็นวิธีการทำให้นักแสดงนำอย่างสโตรดรวมทั้งการแสดงของ เจมี ลี เคอร์ติเตียนส ไม่เสียของ ด้วยเหตุว่าการจะเล่าวาระสุดท้ายที่น่าจำก็ควรจะรื้อฟื้นปมนักแสดงมาเล่ารวมทั้งพาผู้ชมก้าวผ่านไปเจอหน้ากับเงื่อนที่ยังสะสาง terracotabolsas ไม่เป็นผลสำเร็จไปกับผู้แสดง และก็สามารถแฟนเซอร์วิสกับสาวกของหนังชุดนี้ได้พอดีผ่านช็อตเปิดเรื่องในตำนานที่มาได้เหมาะสมถูกจังหวะ รวมทั้งฉากแฟลชแบ็กที่โอกาสนี้มาแบบให้นึกถึงหนังภาคก่อนๆจนกระทั่งแฟนคลับคงจะรื้นเป็นจำนวนมาก

ถึงถ้าอย่างนั้นก็ยังจำเป็นต้องตั้งข้อคิดเห็นอยู่ดีแม้ว่าจะมีหลายจุดของหนังที่น่าพอใจมากมายๆอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แม้กระนั้นจุดหักมุมของหนังก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดจนถึงทายใจทางผิด ตรงกันข้ามเมื่อหนังผ่านเวลา เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา ไปสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงพวกเราก็เกือบจะจับทางมันถูกหมดแล้วว่าหนังจะไปจบอย่างไร ก็แค่กรีนก็ฉลาดหลักแหลมพอที่จะให้ข้อสรุปในแบบที่ผู้ชมปรารถนา แม้ว่าจะขาดความท้าสำหรับเพื่อการเล่าแบบหนังสยองขวัญยุคสมัยใหม่ที่เล่นปมจิตวิทยาได้ลึกล้ำกว่าก็ตาม

จุดที่อีกทั้งถูกใจและก็เสียดายเป็นบทโรแมนติกที่เกือบจะเป็นของใหม่ในหนังชุด ‘Halloween’ ระหว่างคอรีกับอัลลิสันซึ่งหนังเอาจุดนี้มาเป็นส่วนสำคัญของเรื่อง แล้วก็เป็นจุดที่ทำให้เรื่องราวเปลี่ยนกระทั่งส่งผลให้เกิดผลสรุปของหนัง โดยมันมีทั้งยังจุดเด่นซึ่งสามารถเอาไปตอกย้ำซ้ำเติมหัวข้อการตื่นจากฝันร้ายที่พวกเรากล่าวไปแล้ว แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันกรีนเองก็ดูเหมือนมิได้เจาะลึกให้รายละเอียดมากพอจนถึงก่อให้เกิดการพูดถึงเงื่อนด้านจิตวิทยาที่น่าจำมากยิ่งกว่านี้

แต่ว่าอย่างต่ำสิ่งที่ดีเลิศมากมายๆจากเงื่อนโรแมนติกนี้ก็คือกระบวนการทำให้คนชอบดูหนังได้มองเห็นเสน่ห์ของ แอนดี เมติแช็ค ที่สวมบทอัลลิสันเสียเชิงภายหลังเป็นเพียงแต่ตัวประกอบและก็อาหารตาของผู้ชมมา 2 ภาคแบบเกือบจะไม่จำเป็นกับเรื่องราวเท่าไรนัก แม้กระนั้นใน ‘Halloween Ends’ จำเป็นต้องเห็นด้วยเลยว่าการมีอยู่ของเมติแช็คทำให้หนังตรึงผู้ชมได้ไม่แพ้เจมี ลี เคอร์ตำหนิสที่เป็นตำนานคู่ ‘Halloween’ เลย

ภาคนี้มีลักษณะเด่นอยู่ตรงที่การปูความเกี่ยวข้องของผู้แสดง เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา หลักมากยิ่งกว่าการไล่เฉือนรวมทั้งการไล่ล่าไมเคิล ไมเยอร์ เพราะว่าเงื่อนของรวมทั้งความข้องเกี่ยวของผู้แสดงที่เกิดขึ้นในภาคนี้ มันบางครั้งก็อาจจะนำมาซึ่งการเปิดเฟสใหม่ของหนังเชื้อสายฮาโลวีนก็เป็นไปได้ นับเป็นการปิดเฟสเก่าอย่างสมบูรณ์ ตามชื่อ

ในส่วนของฉากไล่เฉือน ฉากฆ่า ฉากฆ่าโหดเหี้ยม ก็ยังทำเป็นตามมาตรฐาน ยังคง ประดิษฐ์ฉากพวกนี้ออกมาได้ชั่วร้ายดังเดิม แล้วก็ตามชื่อ Halloween Ends นั่นก็คือตอนจบของไมเคิล ไมเยอร์ เป็นการสิ้นเรื่องราวของนักเฉือนสุดโหดเหี้ยมในตำนานได้อย่างสมบูรณ์ฉากต่อสู้ในตอนสุดท้ายของเรื่องทำออกมาได้สนุกสนานมากมาย และก็ตัวของไมเคิล ไมเยอร์ก็อึด ป้าลอรี สโตรท ก็ฉลาดหลักแหลมและก็อึดไม่แพ้กัน แล้วก็มันควรจบได้ตั้งนานแล้ง ส่วนไมเคิล ไมเยอร์จะถูกกำจัดยังไงจำต้องไปดูเอาเอง ขอแอบพูดว่าจบอย่างงี้ก็อาจไม่น่าจะรู้สึกตัวกลับมาได้อีกต่อไปแล้วละ

ก่อนสิ้นเรื่องราวของไมเคิล ไมเยอร์ หนังจะมีการ Flash Back ไปยังเรื่องสำคัญฉากสำคัญ ของหนัง halloween ในภาคที่ผ่านมา เพื่อแฟนหนังได้คนึงถึงเรื่องราวของคนร้ายผู้นี้ที่มีมาร่วม 40 ปี ก่อนการจบของคนร้ายตัวนี้อย่างสมบูรณ์ด้วย ก็กล่าวได้ว่าเป็นการจบสิ้นกลั้นสุดแสนชื่นชอบHalloween Ends เป็นหนังที่ทำขึ้นมาเพื่อสิ้นเรื่องราวของผู้แสดงไมเคิล เมเยอร์ ตั้งแต่แมื่อ 1978 ให้ลงอย่างสมบูรณ์ในภาคนี้ รวมทั้งถ้าผู้ใดกันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของภาพยนตร์ชุดนี้ จะรู้สึกบันเทิงใจกับหนังมากมายๆชี้แนะว่าจะต้องไปดูแบบไม่ต้องลังเล

ในฐานะของแฟนหนังเฟรนไชน์ Halloween นับเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของความจำล้นหลามนับ 40 ปี และก็หากว่า Halloween Ends ภาคนี้บางทีก็อาจจะไม่เด่นหรือเปล่าก้าวหน้าอะไรเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็ถือเป็นการสิ้นเรื่องราวของไมเคิล ไมเยอร์ได้อย่างสมบูรณ์ แล้วก็เจ้าคนร้ายตัวนี้บางทีอาจถูกสืบต่อในฐานะคนร้ายและก็นักเฉือนตัวใหม่ก็เป็นไปได้